บล๊อคโมเอะบอยซ์

Line : boyzamu
FB : www.fb.com/moemaxboyz
Mail : boyz_a_mu@hotmail.com

สปอยล์ SAO

รูปประกอบ เพลงเปิด crossing field จาก Sword Art Online รุ่นลิมิทเต็ดอิดิชัน , ด๋อยสกาเล็ต, กาตูนSAO ภาคเอลฟ์


SPOILER !!! อย่าอ่านต่อถ้าไม่อยาก ...เสียใจในภายหลัง ตั้งแต่ตอน แปดเป็นต้นไป
อาซุนะ และคิริโตะได้เคลียร์เกมได้ (เล่ม1 และ2) ในระหว่างนี้เกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
  • ดวลคิริโตะและหัวหน้ากิลด์อาซุนะ
  • อาซุนะตาย จากการช่วยคิริโตะ
  • หลังจากเคลียร์ได้ เหล่าผู้เล่น SAO ได้ติดไปอีกเกมส์ ALO (เล่ม 3 เป็นต้นไป)
  • โดยอาซุนะได้เป็นราชินีเอลฟ์ที่ถูกจองจำ และคิริโตะต้องไปบุกไปช่วย เพื่อสู้กับ ราชาเอลฟ์ ที่เป็นผู้ร้ายที่จ้องจะแต่งงานกับอาซุนะ ทั้งในเกม และในชีวิตจริง
  • แต่สุดท้าย คิริโตะกับอาซุนะก็สมหวัง ได้เป็นทั้งแฟนกันทั้งในชีวิตจริงและในเกมส์
 

เหตุผลที่ Sword Art Online พึ่งมาดังได้ในช่วงนี้ ทั้งที่ผู้แต่งเรื่องเขียนไว้มากว่า สิบปีแล้ว
ผมคิดว่า เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปเป็นออนไลน์มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีสาเหตุต่างๆประกอบ
ที่ไม่สามารถคาดเดาได้เมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นว่ามีเหตุรองรับที่ลงตัวมาก
  1. คาดว่ามาจาก เนื้อเรื่องด้วย ที่ดูไม่เป็นการพัฒนาตัวละคร ในยุคสมัย Ascii เลย ที่ตัวละครพัฒนาเก่งตั้งแต่แรก สังเกต ชานะ, แอกเซลเวิลได้ ที่พระเอกค่อยๆพัฒนาความสามารถให้เด่น(เสริมจุดเด่นของตนเองให้แข็งแกร่งสุดฯ) ซึ่งในเรื่องนี้ คิริโตะ มาถึง..รู้สึกว่าเก่งเลย (ในเล่มหลังๆได้อธิบายว่าทำไม คิริโตะถึงเก่งเทพอย่างงี้)
  2. ผู้แต่งได้รับรางวัลในปี 2009 จาก Accel World ทำให้ Sword Art Online ได้รับกลับมาปัดฝุ่นลงตีพิมพ์เป็นนิตยสารหลังจากเขียนมาตั้งแต่ปี 2002 และลงเว็บให้คนอ่านกันถึงปี 2007 (อาชีพนิยายโหดมากจริงๆ ต้องเขียนนิยายอย่างน้อยตั้งเจ็ดปีกว่าจะดัง อย่างแฮรี่พอตเตอร์ก็ต้องเขียน 20ปี (15 สั่งสมประสบการณ์ อีก 5 ปีถึงจะเขียนเล่มแรกได้ อย่าง Drizzt ผู้แต่งต้องเรียนข้ามสายจากวิทย์คอมเป็นเขียนภาษาอังกฤษ กว่าจะเริ่มเขียนเป็นจริงเป็นจังก็ อายุปาไป 30 กว่าแล้ว)
  3.  (เหตุผลเชิงธุรกิจ) Ascii สมัยสิบกว่าปีก่อน ยังไม่ได้เริ่มโครงการ เหมือนกับในปัจจุบัน นั่นคือ ระบบธุรกิจ การทำไลโนเวล กาตูน และอนิเมะ พร้อมกัน ผมเรียกว่า 3 synergy สมัยแรก นั่นบริษัทเป็นบริษัทแต่เพียง นายหน้าเท่านั้น แต่หลังๆ (สิบปีที่แล้ว และมีการควบรวมบริษัทกันหลายครั้ง) เริ่มเข้าใจว่าต้องผลิต เนื้อหาของตนเองมากขึ้น เช่น ฮารุฮิ ก็มาจากเจ้านี้ (หมายถึงคาโดคาว่ากรุ๊ปทั้งหมด) แต่ตอนหลังก็เจ๊งกลับบ้านเก่า เมื่อไม่สามารถดึงจุดขาย และหานักเขียนที่เก่งๆมาลงได้อย่างต่อเนื่อง (ใน The Sneaker) อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่จุดจบของนักธุรกิจสายโมเอะอย่างแน่นอน เกิดการรวมตัวใหม่ วิเคราะห์ตลาดใหม่ วางแผนอย่างยาวนาน เรียนรู้ความล้มเหลวทางธุรกิจสมัยก่อนอย่างละเอียด เกิดใหม่เป็น Dengeki Bunko ที่โด่งดังในปัจจุบัน ผสานทุกอย่างเข้าด้วยกัน จนรุ่งเรืองเหมือนในปัจจุบัน